5 April 2011

4 April 2011

Packing like a Pro

พอจะทราบข้อมูลเบื้องต้นของการไปเยือนประเทศสิงคโปร์กันบ้างไม่มากก็น้อยกันแล้วนะคะ  จริงๆ แล้วเข้าออกประเทศนี้ และการอยู่อาศัยค่อนข้างง่ายนะ แต่อย่าเผลอทำอะไรผิดแม้เพียงเล็กน้อยก็แล้วกัน ..กฎหมายเค้าแรงส์ ..ก็ทราบๆ กันอยู่

เอาล่ะ.. ได้เวลาจัดกระเป๋าเดินทางกันล่ะ มาดูวิธีจัดกระเป๋าเดินทางขั้นเทพกันดีกว่า


ชั้นที่ 1(ชั้นล่างสุด)
  • ควรจัดวางสิ่งของเครื่องใช้ที่มีน้ำหนักมากที่สุด รวมถึงของที่อยู่ในกล่อง และกระเป๋าเล็กๆ เช่น รองเท้า กระเป๋าใส่อุปกรณ์ที่ใช้ในห้องน้ำ (อย่าลืมใส่ถุงพลาสติกหรือถุง zip lock ก่อนนะคะ เพราะถ้าของเหลวเล็ดลอดออกมา จะทำให้เสื้อผ้าเครื่องใช้เสียหายเป็นการใหญ่) กระเป๋าเครื่องสำอาง กระเป๋าเครื่องประดับ กล่องแว่นตา
  • ควรใส่รองเท้าในถุงสำหรับใส่รองเท้าหรือถุงพลาสติก เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกตกใส่เสื้อผ้า และควรใส่เพียงถุงละข้างเดียวเพื่อไม่ให้รองเท้าถูกันเป็นรอย ม้วนถุงเท้าใส่ถุงพลาสติกแล้วสอดเข้าไปในรองเท้า เพื่อรักษารูปทรงรองเท้าและไม่ให้เปลืองเนื้อที่กระเป๋า แถมขากลับยังสามารถใช้ถุงเหล่านี้แพ็กกางเกงชั้นในและถุงเท้าที่ใช้แล้ว สอดกลับเข้าไปในรองเท้าได้อีกด้วย
  • ให้วางรองเท้าสลับหัวกันเพื่อประหยัดเนื้อที่ ตามด้วยกระเป๋าเครื่องสำอาง กล่องหรือกระเป๋าใส่เครื่องประดับ
  • จากนั้นให้ม้วนเสื้อยืดหรือเสื้อโปโล จัดเรียงลงในกระเป๋าโดยหันคอเสื้อไปในทางเดียวกัน หากมีที่เหลือให้ม้วนถุงเท้าวางลงไปด้วย รวมถึงเสื้อและกางเกงชั้นในเพื่อให้เต็มพื้นที่ และป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าหรือสิ่งของกลิ้งไปมา 
  • เวลาจัดวางก็อย่าลืมกระจายน้ำหนักให้ดีๆ เช่นจัดวางกระเป๋าเครื่องใช้ส่วนตัวและกล่องต่างๆไว้ช่วงกลางกระเป๋า ล้อมรอบด้วยเสื้อผ้าที่ม้วนไว้แล้วเพื่อโอบรอบนอกไว้แน่นๆ น้ำหนักจะได้ไม่กองอยู่ด้านใดด้านหนึ่ง ทำให้ยกกระเป๋าเดินทางลำบากเพื่อป้องกันไม่ให้บราตัวสวยถูกกดทับจนบุบบี้เสียทรง ให้ใส่อะไรนิ่มๆ เช่น ถุงเท้าหรือกางเกงชั้นในเข้าไปด้านในกระเปาะบราก่อน แล้วจึงจัดวางเข้ามุม โดยให้โค้งรับไปกับมุมของกระเป๋าเดินทาง เพื่อเป็นการรักษาทรง 

ชั้นที่ 2  
  • จัดวางกางเกง โดยวางแบบสลับฟันปลาและทิ้งขากางเกงไว้ด้านนอกกระเป๋าก่อน ถ้าเป็นกางเกงยีนส์ให้ห่อด้วยถุงพลาสติกเพื่อไม่ให้สีเปื้อนเสื้อผ้าตัวอื่นๆ และถ้ามีกางเกงสูท ให้จัดวางเป็นอันดับสุดท้าย
  • สำหรับเข็มขัด ควรห่อหัวเข็มขัดทุกครั้งเพื่อป้องกันการขีดข่วน และควรคลี่เข็มขัดออกก่อนจัดวางริมขอบกระเป๋าในลักษณะโอบล้อมเสื้อผ้า
  • จัดวางเสื้อหนาวและเสื้อเชิ้ต โดยกลับคอปกเสื้อให้ตั้งขึ้นทุกครั้งและติดกระดุมเสื้อเชิ้ตทุกเม็ด เพื่อไม่ให้เสื้อถูกดึงเสียทรง วางพาดเน็กไท ที่ห่อด้วยถุงพลาสติกลงในแนวขวาง แล้วจึงพับขากางเกงทั้งสองข้างที่ทิ้งไว้นอกกระเป๋าเข้าหากัน 
  • สำหรับกางเกงลำลอง กางเกงยีนส์ เน็คไท จะใช้วิธีม้วนก็ได้ โดยพับประกบขากางเกงเข้าหากันในแนวยาว แล้วใช้วิธีม้วนจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน ซึ่งก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ยับได้เช่นกัน  
ชั้นที่ 3  

          หากนำชุดราตรีเนื้อบางเบาไปด้วย ควรห่อชุดด้วยถุงพลาสติกและพยายามหลีกเลี่ยงการถูกกดทับ คือวางไว้บนชั้นที่ 3 นี้ และควรนำเสื้อโค้ตหรือแจ๊กเก็ตซึ่งเป็นชิ้นที่ยับยากที่สุดมาวางทับ เพราะเนื้อผ้าของเสื้อโค้ตมีความหนา ไม่ยับง่าย จะช่วยป้องกันชุดผ้าเนื้อเบาได้ดี แล้วจึงคาดเข็มขัดด้านในกระเป๋า เพื่อกันไม่ให้ของที่แพ็กไว้เคลื่อนที่มากเกินไปก่อนปิดกระเป๋า




:: ข้อแนะนำสำหรับขาช็อป ::      

          ควรนำกระเป๋าเปล่าแบบพับได้ติดตัวไปด้วย โดยวางลงชั้นบนสุดเป็นชิ้นสุดท้าย เผื่อไว้ใช้ใส่สัมภาระที่เพิ่มขึ้นจากการช้อปปิ้ง และอย่าลืมพกกุญแจล็อกสำหรับกระเป๋าใบนี้ไปด้วยนะคะ และต้องเป็น FDA Approved Lock หากเดินทางในอเมริกา  
     

          ถุง zip lock สารพัดประโยชน์ ใช้ได้เสมอสำหรับใส่ขวดแชมพู ยาสีฟัน สเปรย์ฉัดผม หรืออะไรก็ตามที่หกเลอะได้ง่าย 
     

          ถ้าเดินทางไปเมืองหนาวจัด หรือไปสกี ต้องใช้เสื้อหนาวตัวหนามากมาย แนะนำให้ซื้อถุงพลาสติกสูญญากาศ (Vacuum Bag) ขนาดใหญ่พกติดตัวไปด้วยสัก 3-4 ถุงเสมอ เพราะเมื่อแพ็กแจ๊กเก็ตตัวฟูเข้าในถุงนี้แล้วรีดอากาศออกจนหมด เสื้อพองฟูจะเหลือตัวแห้งแบนแต๋ เพิ่มที่ในกระเป๋าได้อีกบานสำหรับขากลับ ลองดูที่ www.spacebag.com ก่อนก็ได้ หรือถ้าไปเที่ยวญี่ปุ่น แนะนำให้ซื้อตุนของยี่ห้อ TRAVESIA กลับมาเลย หาซื้อได้จาก Tokyu Hands หรือ Loft ค่ะ
     

          เมื่อนำเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า แล้วพบว่า เสื้อผ้าบางชิ้นมีรอยยับ ให้นำออกมาใส่ไม้แขวนทิ้งไว้สักครู่ ถ้าเป็นผ้าไหม ให้แขวนไว้ในห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่นไว้เหมือนเป็นการอบไอน้ำสักครู่ รอยยับจะคลายตัวไปเอง


ที่มา : วิธีจัดกระเป๋าอย่างมืออาชีพ

SG Information


ข้อมูลทั่วไป

ชื่อทางการ สาธารณรัฐสิงคโปร์

เมืองหลวง สิงคโปร์

พื้นที่ 697.1 ตารางกิโลเมตร ยอดเขาสูงที่สุดคือ Bukit Timah แม่น้ำสายหลักคือ Singapore และ Rochor สิงคโปร์มีถนน และรถไฟเชื่อมกับมาเลเซีย ณ Singapore/Johor Causeway ระยะทางประมาณ 6 กม.

ประชากร 4.2 ล้านคน (ชาวจีน 76% ชาวมาเลย์ 13.7% ชาวอินเดีย 8.4% และอื่นๆ 1.9% ) ซึ่งอยู่กันโดยไม่มีปัญหา ความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ นอกจากนี้สิงคโปร์ยังเป็นประเทศในเอเชียที่มีการวางแผนครอบครัวได้ดีมาก จนทำให้จำนวนประชากรลดลง และก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอนาคต

ภาษา ภาษาทางราชการ คือ ภาษามาเลย์ จีนกลาง ทมิฬ และอังกฤษ สิงคโปร์ส่งเสริมให้ประชาชนพูด 2 ภาษา โดยเฉพาะจีนกลาง ในขณะที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในการติดต่องานและในชีวิตประจำวัน

ศาสนา 51% นับถือศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋าและขงจื๊อ 15% นับถือศาสนาอิสลาม 4% นับถือศาสนาฮินดู 15% นับถือศาสนาคริสต์ และร้อยละที่เหลือคือลัทธิอื่นๆ

การปกครอง ระบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข และมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล รัฐสภามีวาระคราวละ 5 ปี นโยบายต่างประเทศสิงคโปร์เน้นด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและการลงทุนจากต่างประเทศ

อากาศ ร้อนชื้น มีฝนตกตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย 26.8 องศาเซลเซียส



สภาพภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศของสิงคโปร์ คล้ายกับประเทศไทย คือ เป็นแบบร้อนชื้น ฝนตกชุกตลอดปีเนื่องจากอิทธิพลทางทะเลและที่ตั้งของประเทศ

เศรษฐกิจ
สิงคโปร์จัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่เช่นเดียวกับ ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ผลิตภัณฑ์ส่งออกหลัก คือ ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม เครื่องจักร ผลิตภัณฑ์นำเข้าส่วนใหญ่ ได้แก่ พลังงาน ( 40% ของการนำเข้าทั้งหมด) และอาหาร นอกจากนั้น การท่องเที่ยวก็นำรายได้เข้าประเทศมากเช่นกัน

สังคม
ชาวสิงคโปร์ถือว่ามาตรฐานการครองชีพของตนดีกว่าประเทศอื่น แต่ขณะเดียวกันความกลัวในจิตใจ คือ กลัวความล้มเหลวกับกลัวการเสียเปรียบ

หน่วยราชการของสิงคโปร์มีประสิทธิภาพและรวดเร็วในการทำงาน โดยมีเวลาทำงาน จันทร์-ศุกร์ 08.30-13.00 และ 14.00-16.30 น. และเสาร์ 08.00-13.00 น.

การบริการทางการแพทย์ในสิงคโปร์แพงกว่าประเทศไทยมาก และการซื้อยารักษาโรคประเภทยาปฏิชีวนะและยาอันตราย จะต้องมีใบสั่งแพทย์ แต่ยารักษาโรคพื้นฐานสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป



ค่าครองชีพ
มาตรฐานคุณภาพชีวิตของสิงคโปร์อยู่ในระดับต้นๆของเอเชีย เทียบกับประเทศอื่นๆในตะวันตกแล้วค่าครองชีพที่สิงคโปร์นับว่าไม่สูงมากนัก ราคาสินค้าพื้นฐานอย่างอาหาร หรือเสื้อผ้าก็นับว่าสมเหตุสมผล

เวลา
เวลาของสิงคโปร์เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง (GMT +8.00)

ไฟฟ้า
สำหรับกระแสไฟทางสิงคโปร์ใช้เหมือนบ้านเราคือ 220 โวลต์ แต่ความแตกต่างนั้นคือ สิงคโปร์ใช้เต้าเสียบแบบ 3 ขา (บ้านเราใช้ 2 ขา) ฉะนั้นอย่าลืมว่า ต้องนำปลั๊กต่อไปด้วย

สกุลเงินตรา
หน่วยเงินตราของสิงคโปร์คือ ดอลลาร์ (Singapore Dollar) โดยแบ่งค่าเงินต่าง ๆ ออกเป็นดังนี้ ธนบัตรมูลค่า S$2, S$5, S$10, S$20, S$50, S$100, S$500, S$1,000 และ S$10,000 เงินเหรียญมีตั้งแต่ 1, 5, 10, 20 และ 50 เซนต์ รวมถึง S$ 1

กฎหมาย
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงเป็นที่กล่าวขานในเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด ประชากรมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่สูง เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีกฎหมายลงโทษร้ายแรง คือ การประหารชีวิต หรือโทษจำคุกระยะยาว เช่น ที่สิงคโปร์นั้น ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะอย่างเด็ดขาด หากฝ่าฝืนปรับถึง S$1,000 การทิ้งเศษขยะลงพื้น ฝ่าฝืนครั้งแรกถูกปรับ S$1,000 ครั้งต่อไป S$2,000 และต้องทำความสะอาดในที่สาธารณะด้วย
กฎหมายนี้รวมถึงการห้ามถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ และห้ามเคี้ยวหมากฝรั่งด้วยดังนั้น ไม่ควรนำหมากฝรั่งไปที่สิงคโปร์ การเสพหรือจำหน่ายยาเสพติดในประเทศสิงคโปร์นั้นมีความผิดขั้นร้ายแรงถึงประหารชีวิต

ที่มา : สนุกแคมปัส